หน้าแรก

/

ข่าวสารล่าสุด BY UCS

/

บทบาทของ Blockchain ในโลก Cybersecurity

บทบาทของ Blockchain ในโลก Cybersecurity

Blockchain กับความความปลอดภัย

จากที่เคยกล่าวไปในบทความ Blockchain เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก หนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในช่วงหลายปีหลัง และยังถูกยกย่องให้เป็นเทคโนโลยีในระดับปรากฎการณ์ ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคยกันดีคือวงการ Cryptocurrency นอกจากนี้วงการ Cybersecurity ก็เฝ้ามองว่า Blockchain จะเข้ามาช่วยยกระดับความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ได้

.

Cybersecurity คือการปกป้องระบบและเครือข่ายจากการโจมตีทางดิจิทัลซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเข้าถึง เปลี่ยนแปลง หรือทำลายข้อมูลดิจิทัลเพื่อรีดไถเงินหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ด้วยการพึ่งพาเทคโนโลยีและข้อมูลที่เพิ่มขึ้น การสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลและธุรกรรมดิจิทัลจึงมีความสำคัญมาก ซึ่งการโจมตีทางไซเบอร์สามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่นใช้มัลแวร์ต่างๆ ไวรัส โทรจัน เป็นต้น การโจมตีทั่วไปบางประเภท ได้แก่ การโจมตีแบบฟิชชิ่ง การโจมตีแบบDDoS และการโจมตีของ Ransomware

 

หัวใจของ Blockchain คือความปลอดภัย

หลักการของ Blockchain คือ การเก็บข้อมูล หรือ Data structure รูปแบบหนึ่งที่ทำให้ข้อมูลการทำธุรกรรมหรือ Digital transaction ต่าง ๆ จากผู้ใช้งานแต่ละรายถูกบันทึกไว้เป็นบล็อก ๆ และมีห่วงโซ่ หรือ Chain ที่ร้อยเรียง Block ของข้อมูลอันมากมายเหล่านี้ไว้ด้วยกัน รวมเรียกว่า Blockchain

.

ซึ่งชุดข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในแต่ละ Block นี้ก็จะไม่สามารถปลอมแปลงแก้ไขได้ พร้อมทั้งยังสามารถตรวจสอบความถูกต้องย้อนหลังได้ทั้งหมด 

.

และด้วยหลักการของการกระจายศูนย์ หรือ Decentralized ของเทคโนโลยี Blockchain จึงทำให้ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นถูกบันทึก ตรวจสอบและควบคุมแบบกระจายศูนย์โดย Node หรือฮาร์ดแวร์และระบบประมวลผลจากแหล่งต่าง ๆ พร้อม ๆ กันโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตัวกลางเหมือนอย่างในอดีต ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการพึ่งพาตัวกลางในการจัดเก็บข้อมูลเพียงแหล่งเดียว

.

ดังนั้น “ความปลอดภัย” จึงถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างหลากหลาย เช่น การจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญแบบกระจายศูนย์เพื่อลดโอกาสในการถูกขโมยข้อมูล การเข้ารหัสการจัดส่งข้อมูล การป้องกันการโจมตีแบบ DDoS และการใช้งาน IoT เป็นต้น

ข้อดีของการใช้ Blockchain

การรักษาความลับของผู้ใช้

การเข้า Public key cryptography ในเครือข่าย Blockchain ช่วยรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน

Data transparency and traceability

ประวัติของธุรกรรมทั้งหมดเหล่านี้จะถูกเก็บรักษาไว้และสามารถติดตามได้ทุกเมื่อ ข้อมูลการทำธุรกรรมได้รับการลงนามแบบดิจิทัลโดยสมาชิกของเครือข่าย Blockchain

การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลอย่างปลอดภัย

คุณลักษณะสำคัญของการไม่เปลี่ยนรูปของบล็อกเชน และบันทึกการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับข้อมูล ช่วยจัดเก็บข้อมูลในลักษณะที่ปลอดภัย

ความผิดพลาดจุดเดียวจะไม่ส่งผลต่อระบบ

Blockchain มีการกระจายอำนาจ ดังนั้นความล้มเหลวของจุดเดียวจึงไม่ส่งผลกระทบต่อเครือข่ายทั้งหมด ดังนั้นแม้จะโดนโจมตีด้วย DDoS ระบบจะไม่ถูกบุกรุกเนื่องจากการบำรุงรักษาสำเนาบัญชีแยกประเภทหลายชุด ข้อได้เปรียบนี้ไม่สามารถทำได้สำหรับบล็อคเชนส่วนตัว

การถ่ายโอนข้อมูลอย่างปลอดภัย

Public Key Infrastructure (PKI) ใน Blockchain จะรักษาการตรวจสอบความถูกต้องระหว่างการถ่ายโอนข้อมูล สัญญาอัจฉริยะช่วยในการดำเนินการตามข้อตกลงระหว่างสองฝ่ายโดยอัตโนมัติระหว่างการโอน

จุดอ่อนของ Blockchain

การพึ่งพา Private Keys

การจะเข้าถึงบัญชีข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ใน Blockchain ได้นั้น ผู้ใช้งานต้องล็อกอินด้วย Private Keys ที่เปรียบเสมือนรหัสผ่านในการเข้าใช้งาน และด้วยความที่ Private Keys นั้นมีความซับซ้อนและปลอดภัยมากกว่ารหัสผ่านธรรมดา จึงทำให้การลืมหรือทำ Private Keys ดังกล่าวหายไปนั้นก็อาจทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าถึงบัญชีข้อมูลนั้น ๆ บน Blockchain ได้แบบถาวร 

ความสามารถในการรองรับการทำธุรกรรม

ในปัจจุบันการใช้งาน Blockchain ยังคงมีข้อจำกัดในการรองรับการทำธุรกรรมพร้อม ๆ กันจำนวนมาก ซึ่งทำให้การตรวจสอบและบันทึกข้อมูลลงใน Block นั้นยังคงทำได้ในจำนวนที่จำกัดในหนึ่งหน่วยเวลา หรืออาจก่อให้เกิดความล่าช้าในการทำธุรกรรมต่าง ๆ 

ซึ่งยังคงเป็นข้อจำกัดที่สำคัญสำหรับการนำมาใช้งานจริง โดยเฉพาะกับองค์กรที่มี Data จำนวนมหาศาล และต้องการความรวดเร็ว

ค่าใช้จ่ายมหาศาล

Blockchain นั้นเป็นเทคโนโลยีที่กินทั้งพลังงานและทรัพยากรคอมพิวเตอร์ ซึ่งก่อให้เกิดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการใช้งานมหาศาล อีกทั้งการทำธุรกรรมต่าง ๆ บน Blockchain นั้นก็ยังมีค่าดำเนินการที่ต้องถูกเรียกเก็บในทุก ๆ ขั้นตอนอีกด้วย

การไม่มีตัวกลางในการจัดเก็บข้อมูล

ถึงแม้ว่าหลักการของ Blockchain จะเป็นการ Decentralized โดยไม่มีตัวกลาง ทว่า หลักการดังกล่าวนั้นแม้แต่ในแวดวง Cryptocurrency ก็ยังไม่สามารถทำได้ทั้งหมด 100% เช่นกัน ดังนั้นหลักการของการกระจายศูนย์จึงแทบจะยังไม่เกิดขึ้นจริงในเวลานี้ 

ข้อจำกัดในด้านความรู้ความเข้าใจ

Blockchain นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจสูงทั้งในแง่ของผู้ใช้งาน และผู้พัฒนา อีกทั้งการสร้างแพลตฟอร์มต่าง ๆ บน Blockchain ก็ยังต้องใช้ภาษาและเครื่องมือในการพัฒนาที่แตกต่างกัน ซึ่งนักพัฒนาเองก็มีความถนัดและเชี่ยวชาญภาษา Coding ที่ต่างกัน ซึ่งนับเป็นอุปสรรคสำคัญในการนำ Blockchain มาพัฒนาและใช้งานจริง 

CEO06/07/2022
บทความที่นิยม